หญิงสาวสัญชาติไทยผู้ถูกจับข้อหานวดผิดกฎหมายมีอาการน่าสงสัยคล้ายกับการติดไวรัสโคโรน่าสายพันธ์ใหม่ (โควิด 19) ได้ทำการหลบหนีไประหว่างการตรวจสอบและถูกเจ้าหน้าที่ฯจับกุมอีกครั้ง 4 ชั่วโมงให้หลัง
ในวันที่ 2 สถานีตำรวจมีชู่โฮล เมืองอินชอนได้เปิดเผยว่ากำลังดำเนินการจับกุมและสอบสวนนางสาวเอ (อายุ 28 ปี เพศหญิง) หญิงสาวสัญชาติไทยในข้อหาละเมิดกฎหมายการแพทย์
เวลา 03.30 น. ในวันดังกล่าว นางสาวเอถูกแจ้งข้อหาเพิ่มฐานหลบหนีในขณะรับการตรวจสอบที่หน่วยคัดกรองของศูนย์สุขภาพมีชู่โฮล เมืองอินชอน
จากการสอบสวนพบว่า หลังถูกจับในข้อหานวดผิดกฎหมายที่โมเต็ลแหนึ่งในเมืองอินชอน เธอมีไข้ และอาการที่น่าสงสัยอื่น ๆ ที่คล้ายกับอาการของผู้ติดเชื้อโควิด 19 และในขณะที่รับการตรวจสอบที่หน่วยคัดกรอง เธอก็ได้หลบเลี่ยงสายตาของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เฝ้าอยู่ด้านนอกศูนย์สุขภาพและหนีออกไปได้สำเร็จ
โดยในเวลา 11.00 น.ของวันก่อนหน้านั้น ทางเจ้าหน้าที่ฯได้รับแจ้งว่า “มีการโทรเรียกใช้บริการนวดนอกสถานที่ที่โมเต็ล แต่กลับพยายามเสนอขายบริการทางเพศ” จึงลงพื้นที่เพื่อทำการตรวจสอบและเข้าจับกุมนางสาวเอทันที
เจ้าหน้าที่ตำรวจชี้แจงว่านางสาวเอไม่ได้ขายบริการทางเพศ แต่เพราะทำการนวดโดยไม่มีใบอนุญาต นางสาวเอจึงถูกจับกุมในข้อหาละเมิดกฎหมายการแพทย์
จากการสอบสวนพบว่า นางสาวเอถูกใส่กุญแจมือในขณะเข้ารับการตรวจสอบหาเชื้อ และทำการหลบหนีในขณะที่ต้องเดินไปมาระหว่างเต็นท์ภายในหน่วยคัดกรองและตู้คอนเทนเนอร์
เจ้าหน้าที่ฯเปิดเผยว่าหลังจากนางสาวเอหลบหนีไปแล้ว 4 ชั่วโมงต่อมา คือเวลา 07.30 น. ของวันนี้ เธอก็ถูกควบคุมตัวไว้ได้อีกครั้งบนถนนแห่งหนึ่งของตำบลพูพยอง เมืองอินชอน
โดยผู้เกี่ยวข้องกับสถานีตำรวจชี้แจงว่า “ผลตรวจหาเชื้อโควิด19ของนางสาวเอออกมาเป็นลบ จึงมีคำสั่งให้ยกเลิกการกักตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สัมผัสตัวนางสาวเอแล้ว” ในขณะเดียวกัน “จากการตรวจสอบพบว่านางสาวเอเป็นผู้ลักลอบทำงานโดยผิดกฎหมาย จะทำการแจ้งข้อหาละเมิดกฎหมายตรวจคนเข้าเมือง และข้อหาหลบหนีการจับกุมต่อไป”